ณ มหิดล : จากผลงานจิตรกรรมสะท้อนอัตลักษณ์สถาบันฯ สู่การต่อยอดผลิตภัณฑ์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน

“ณ มหิดล” คือผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันและสีอะคริลิก จำนวน 11 ชิ้น โดย ดร. อุษาวดี ศรีทอง นักวิจัยศูนย์ภารตะศึกษา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านทัศนศิลป์ โดยได้สร้างสรรค์ผลงานชุด “ณ มหิดล” ในรูปแบบจิตรกรรมแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ (Impressionism) หรือลัทธิประทับใจนิยม ที่ศิลปินนิยมเขียนภาพจากพื้นที่จริงภายใต้บรรยากาศที่ผสานระหว่างอารมย์ความรู้สึกและความเป็นจริง ผ่านผลงานที่ไม่ได้เน้นความสมจริงอย่างเช่นภาพถ่าย แต่ขับเน้นอารมณ์และความรู้สึกของตัวผู้สร้างสรรค์ที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับพื้นที่นั้น ๆ เช่นเดียวกับผู้เขียนที่เลือกใช้ศิลปะแนวอิมเพรสชั่นนีสถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกจากมุมมองที่มีต่อสภาพแวดล้อมรอบตัวภายใต้มหาวิทยาลัยมหิดล นับตั้งแต่ช่วงเวลาแรกเริ่มที่เข้ามาทำงานในสถาบันการศึกษาที่มีทัศนียภาพสวยงาม ชวนประทับใจ ผสานกับวิชาการที่เข้มแข็งของ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย (RILCA) ที่พร้อมผลิตบัณฑิตเพื่อรับใช้สังคม

ผลงานจิตรกรรม “ณ มหิดล” มีจำนวนทั้งหมด 11 ชิ้น แบ่งออกเป็น 2 ชุด ผลงานย่อย คือ ชุดที่ 1 จำนวน 8 ชิ้นผลงาน เป็นการบอกเล่ามุมมองต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา ในบรรยายกาศภาพดูฟุ้งฝัน ด้วยชั้นของสีน้ำมันและสีอะคริลิกที่ผสานทับซ้อนกันจากพู่กันและเกรียง จนราวกับว่ามีลมหรือมวลอากาศเย็นปรากฏอยู่ในภาพ อันมีที่มาจากช่วงเวลาในการเขียนภาพชุดดังกล่าว คือปลายเดือนกันยายน – ตุลาคม 2567 ซึ่งอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว อันเป็นเวลาเดียวกับที่ผู้เขียนได้เริ่มเข้ามาทำงานในฐานะนักวิจัย ศูนย์ภารตะศึกษา สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย การทำงานในสภาวะอารมณ์และจิตที่ผ่อนคลาย ทำให้การปรากฏตัวของเส้น สี และบรรยากาศภาพดูเบา สบาย ราวกับมีสายลมพัดผ่าน ภายใต้กรอบวงกลมของผืนเฟรมผ้าใบ ที่เปรียบได้ดั่งดวงตาของผู้เขียนที่ใช้เพ่งพินิจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ที่ขณะนั้นทุกอย่างได้กลายเป็นสิ่งใหม่ที่น่าสนใจให้เรียนรู้และจดจำ

การเฝ้าพินิจในบรรยากาศจากสภาวะรอบกายได้นำมาสู่ผลงานย่อยชุดที่ 2 ในชื่อ “กันภัยมหิดล” ที่ประกอบด้วยผลงานจิตรกรรมจำนวน 4 ชิ้น ที่มีชื่อว่า “ชูช่อ, ระรื่น, สดชื่น, ชื่นบาน” เพื่อแทนลักษณะเด่นของ กันภัยมหิดล พรรณไม้สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่นอกจากนามจะเป็นมงคลแล้ว ลักษณะของดอกและลำต้นที่เป็นไม้เถา อ่อนช้อย ชูช่อดอกสีม่วงชลูดสู่ฟ้า นำมาซึ่งความหมายและการแทนค่า ความงามและความรู้ของลูกพระบิดาที่บ่มเพาะศิลปวิทยา เพื่อพร้อมออกไปรับใช้สังคมอย่างปราศจากอัตตา ดังเช่น ลักษณะของลำต้น ที่แม้จะอ่อนช้อย แต่แข็งแกร่ง และพร้อมปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งผลงานชุดนี้ยังได้รับการต่อยอดสู่การนำไปใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในโครงการ “RILCA Connect” โดย สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย ได้ทำงานร่วมกับ ชุมชนอูรักลาโวยจ เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และชาวบ้านในวิสาหกิจชุมชนผ้าบาติกและมัดย้อมตำบลบ้านชุ้ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้ต่อยอดผลงานจิตรกรรมต้นแบบชุดกันภัยมหิดล จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าให้กับช่างฝีมือในชุมชน ทำให้งานศิลปะชุดนี้ได้ทำหน้าที่ในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชน อันเป็นผลสืบเนื่องจากโครงการ และความตั้งใจอันดีของผู้เขียน ผู้บริหาร และบุคลากรของสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย ที่ต้องการพลิกฟื้นคืนชีวิตให้กับผลงานศิลปะและชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
